รักรสบ๊วย ep.12
ปล.แนะนำให้อ่านเนื้อเรื่องตอนที่12ในจอยลดาก่อนนะคะ
**มีคำผิดจะมาแก้ให้ค่ะ**
ย้อนกลับไปเมื่อคืนนี้.....
“เนี่ย กูเดินคนเดียวได้มึง”
บ๊วยโวยวายออกมาเสียงดังเพราะดราฟต์กำลังประคองตัวของร่างเล็กเดินเข้าไปภายในตัวบ้าน
“เมาก็คือเมา จะเดินไม่ไหวอยู่แล้วทำอวดเก่ง”
“เป็นใครมาว่ากูวะ? ไม่ใช่ดราฟต์ไม่ต้องมายุ่ง”
“ก็ผมนี่แหละดราฟต์”
บ๊วยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆดราฟต์เพื่อที่จะได้พิจารณาใบหน้าดูให้แน่ชัด
ว่าเป็นดราฟต์ของเขาจริงๆหรือเปล่า
“ไม่ใช่อ่ะ ดราฟต์หล่อกว่านี้”
“เฮ้ออออออ”
ดราฟต์ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย นี่ถ้าเขาไม่ไปรับร่างเล็กตรงหน้ากลับมาจะเป็นยังไงบ้าง แต่ก็แน่ล่ะ ซีนคงไม่ปล่อยให้บ๊วยกลับเองหรือกลับกับคนอื่นหรอก
แต่ถ้าเมื่อกี้เขาเข้าไปฉุดร่างเล็กออกมาไม่ทันทันก็ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน
เมาแล้วปล่อยเนื้อปล่อยตัวหรอวะ? ทีหลังจะไม่ให้ไปกินแล้ว
ดราฟต์จัดการอุ้มบ๊วยในท่าเจ้าสาวแล้วเดินขึ้นบันไดไป
ตัวก็ไม่ใช่น้อยๆ ถ้าเขาเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย
สัญญาเลยว่าวันนี้บ๊วยได้นอนข้างล่างแน่ๆ
ดราฟต์อุ้มบ๊วยเดินเข้ามาภายในห้องแล้วค่อยๆวางร่างเล็กลงกับที่นอน
แต่เหมือนว่าแขนของบ๊วยที่คล้องคอของเขาอยู่นั้นจะติดแน่นจนแกะไม่ออก
“ปล่อย!!”
“ไม่ปล่อย”
“ไหนบอกผมไม่ใช่ดราฟต์ไง”
“ก็ไม่ใช่ดราฟต์ไง เพราะถ้าใช่ ดราฟต์ไม่มีทางอุ้มกูแบบนี้แน่”
“แล้วคิดว่าใคร?”
“ใครก็ไม่รู้ที่หล่อๆ”
ทำไมพอฟังประโยคนี้แล้วเขาหน้าตึงแปลกๆวะ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้
บ๊วยปล่อยมือที่คล้องคอเขาไว้แล้วเปลี่ยนเอามือมาจับหน้าของเขาแทน เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง
หูอื้อ ไม่ได้ยินเสียงเดินของนาฬิกาที่อยู่ภายในห้อง
จุ๊บ ~
บ๊วยจูบเข้าที่ปากของร่างสูงอย่างรวดเร็วแล้วรีบผละออก
จะเรียกว่าจูบก็คงไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นจุ๊บปากแทนมากกว่า
ดราฟต์ได้แต่ทำหน้าตกใจกับการกระทำของร่างเล็ก
แต่ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้ทำอะไรหรือพูดอะไรออกไป
บ๊วยได้ล้มตัวลงไปนอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็หลับไปแล้วซะด้วย เท่านั้นยังไม่พอ
ยังคิดว่าหมอนข้างเป็นเขาเพราะตอนนี้บ๊วยกำลังนอนจูบอยู่
เออ อยากทำอะไรก็ทำเลยงั้น
//
กลับมาเวลาปัจจุบัน....
หลังจากที่ดราฟต์ส่งข้อความมาล่อลวงเขาแบบนั้นแล้วเขาก็อดที่จะดีใจไม่ได้
แต่ถ้าเขาไปจะได้จูบจริงๆหรือเปล่า?
ดราฟต์.
จะไม่มาจูบต่อจากเมื่อคืนหรอ?
ดราฟต์.
ยังไม่ทันได้จูบจริงๆเลยนะ
ดราฟต์.
เมื่อคืนแค่จุ๊บไปเอง ยังไม่เป็นจูบเลย
ไอ่บ้า!! ใครสั่งใครสอนให้พิมพ์มาแบบนี้วะ
แบบนี้มันล่อลวงกันชัดๆ แล้วคิดว่าคนแบบเขาจะทนหรอ? ไม่มีทางซะหรอก เขาชอบของเขามาตั้งนาน เขาจะต้องไม่มีทางนกเด็ดขาด
บ๊วย.
งอนอยู่นะ
บ๊วย.
ไม่รู้หรอ?
ดราฟต์.
ก็มาให้ผมง้อก่อน
บ๊วย.
เจอกันที่บ้านเลยได้ไหม?
บ๊วย.
เค้าต้องเข้าไปหาบัว
ดราฟต์.
ครับ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรีบไปหาหรือยังไง
แต่มีหนึ่งชีวิตที่กำลังรอน้องชายสุดที่รักแบบเขาเข้าไปหา ยังไงบัวก็ต้องมาก่อนความสุขของเขาอยู่แล้ว
เขารักบัวมาก และบัวเองก็คงจะคิดเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นถ้าบัวทุกข์ใจ เขาจะต้องเข้าไปคอยเป็นกำลังใจให้บัว
ถึงแม้ว่าใจมันอยากจะไปหาดราฟต์แค่ไหนแล้วก็ตาม
บ๊วย.
เก็บจูบไว้ให้ก่อนนะ read
กูพิมพ์ไปแบบนั้นจะดูไร้ยางอายไปป่ะวะ? มันเสือกกดอ่านแล้วด้วย
ดราฟต์.
ก็เก็บไว้ให้อยู่
เอาล่ะ กูยกธงขาว ฮืออออ อีบ้าเอ้ยยยย ปากกูนี่ก็ยกยิ้มจังเลย ฮือออ
กูเขิน
//
เป็นเวลาเกือบ21:30ที่ร่างเล็กกลับมาถึงบ้านที่เขามาขอดราฟต์อาศัยอยู่ด้วย
ถึงแม้ว่าช่วงที่เขากลับไปเป็นหมอจะไม่ค่อยได้กลับมานอนเท่าไหร่ก็ตาม
ยกเว้นเมื่อคืนนะ ขอไม่นับ เพราะเมาจนจำอะไรไม่ได้จริงๆ
บ๊วยเดินเข้าไปภายในตัวบ้านอย่างอารมณ์ดี
เพราะเรื่องที่บ้านไม่ต้องเครียดแล้ว บัวไม่ได้ถูกย้ายไปประจำที่อื่น และพี่นิว
ถึงพ่อจะยังไม่ยอมรับเต็มร้อย แต่ตอนนี้ก็ให้เวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่
และเขาเชื่อว่าพี่นิวต้องทำมันออกมาได้ดี
แต่ก็อย่างว่า พ่อของเขาไม่เคยพอใจคนที่ลูกตัวเองรักสักคน
เขาไม่เห็นดราฟต์อยู่ข้างล่าง แสดงว่าต้องอยู่บนห้องนอน
คิดได้แบบนั้นบ๊วยจึงรีบเดินไปขึ้นบันไดทันที
“อ้าว ห้องนอนก็ไม่อยู่นี่หว่า? หรือว่าอาบน้ำ”
“บ่นอะไรคนเดียว”
บ๊วยหันไปตามเสียงก็ต้องตกใจกับดราฟต์ที่เหมือนจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
เขาจะไม่ร้องเชี่ยในใจเลย ถ้าหากว่าดราฟต์ไม่ได้นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำแบบนี้
หุ่นดีโคตรๆ
“บ๊วย คุณเลือกกำเดาไหล”
ดราฟต์เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกของร่างเล็กก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
และรีบวิ่งไปหยิบกระดาษทิชชู่มาซับเลือดที่มันไหลออกมาทันที
และเขาลืมไป ว่าตัวเองกลัวเลือด คิดได้ดังนั้นร่างสูงรีบหาที่พักพิงหรือรีบหาที่จับให้เขาช่วยพยุงตัวเองเอาไว้ก่อน
เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น เขาคงต้องเป็นลมไปแล้วจริงๆแน่นอน
“เธอกลัวเลือดหรอ? ความรู้ใหม่เลยนะเนี่ย”
หลังจากที่บ๊วยตั้งสติได้ว่าที่เลือดมันไหลออกมานั้น
มันเพราะความบ้ากามของตัวเองล้วนๆ อีเชี่ยเอ้ยยย!!
ถ้าดราฟต์รู้ว่าเขาหื่นขนาดนี้จะเป็นยังไงวะเนี่ย
“คุณรีบไปเข้าห้องน้ำเถอะ ชะ...เช็ดเลือดที่หยดนั้นด้วยนะ”
“อ่า เคๆ”
//
เวลาผ่านไปสักพักให้ทั้งสองได้จัดการความรู้สึกของตัวเอง
ดราฟต์พยายามสงบสติอารมณ์ในความกลัวของตัวเองและคิดว่าเขาคงหายจากอาการหน้ามืดแล้วจึงลุกไปแต่งตัว
พอทำอะไรเสร็จก็มานอนเล่นโทรศัพท์มือถือรอบ๊วยออกมาจากห้องน้ำ
เพื่อที่จะได้นอนพร้อมกัน
ภายในห้องน้ำที่ร่างเล็กเอาแต่นอนแช่ตัวเองอยู่ในห้องน้ำไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับร่างสูงที่อยู่ข้างนอก
ดราฟต์จะคิดว่าเขาเป็นพวกหื่นกามไหมเนี่ยะ? แต่เขาก็ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะ
แต่ไม่รู้ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้
แล้วแบบนี้เขาจะกล้าสู้หน้าดราฟต์ได้ยังไงวะ จะแช่ให้ตัวเปื่อยกันไปข้างเนี่ยแหละ
แต่สุดท้ายบ๊วยก็ทนกับความหนาวไม่ไหว
เขาทำใจอยู่นานว่าจะออกไปเผชิญหน้าดีไหม แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องออกไป
เพราะหนีกันไม่พ้นแน่นนอน และเขาขอให้ดราฟต์หลับไปแล้วด้วยเถอะ
และคำอธิฐานของเขาไม่เคยเป็นจริง
กูควรไปทำบุญเพื่อสะสมแต้มบุญเพิ่มหรือไม่?
“อาบน้ำนานจัง?”
“แช่น้ำน่ะ ให้มันสบายตัว”
“แต่ไม่สระผมเนี่ยนะ?”
“ขี้เกียจอ่ะ วันนี้อยากนอนแล้วด้วย”
บ๊วยพูดจบก็ทำเป็นแกล้งเดินหาวไปฝั่งที่นอนของตัวเองและล้มตัวนอนลงทันที
“ทำไมง่วงเร็ว นี่เพิ่งสี่ทุ่ม”
“จะกี่ทุ่มก็นอนเถอะ ง่วงแล้ว”
“ไม่อยากได้จูบแล้วหรอ?”
ใครมันจะไปมีอารมณ์จูบลงวะ มันกลัวเลือด และกูเองก็เพิ่งแสดงด้านมืดของตัวเองออกไป
เขาไม่เอาด้วยหรอก วันนี้ร่างกายไม่พร้อม สภาพจิตใจก็เช่นกัน
“นานๆทีจะเสนอตัวนะ ถ้าไม่จูบตอนนี้ ก็จูบอีกทีตอนเป็นแฟนกันเลยนะ”
บ๊วยเอาแต่เงียบหลังจากที่ฟังประโยคที่ดราฟต์พูดจบ ตอนนี้หัวสมองของเขากำลังตีกันให้วุ่นวายไปหมด
ด้านสีขาวบอกว่า : อย่าเลย อดเปรี้ยวไว้กินหวานจะดีกว่า
ส่วนด้านมืดมันประท้วงออกมาว่า : ถ้าไม่จูบตอนนี้
ต้องรออีกนานเลยนะ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เป็นแฟนกัน
แล้วคิดว่าคนแบบหมอบ๊วยคนนี้จะเลือกอะไร? ใช่ เขาเลือก
“งั้นจูบเลย”
พอตัดสินใจได้ว่าจะเอายังไงก็รีบลุกพรวดขึ้นมาหันหน้าเข้าหาร่างสูงที่นั่งอยู่ทันที
“ฮ่าๆ ผมพูดเล่น”
“ห๊ะ?”
“พูดเล่นไง ใครจะไปจูบกับคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
เจ็บไหมล่ะมึง? หน้าชาไปเป็นแถบ เผลอๆชาไปแล้วครึ่งตัว
อีเวร!! มันหลอกกูหรอวะ?
ร่างเล็กไม่ตอบอะไรร่างสูงกลับไป แต่เลือกที่จะลุก
หยิบหมอนและผ้าห่มเดินออกไปนอกห้องแทน
ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนให้ความหวังกันตั้งแต่แรก
และอยู่ดีๆก็ฉุดเขาลงเหวอย่างรวดเร็ว และตอนนี้เขาเกลียดความรู้แบบนี้สิ้นดี
บ๊วยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าดราฟต์จะตะโกนหรือพูดอะไรออกมา
แต่เลือกที่จะลงมานอนข้างล่างแทน และคงคิดว่าคืนต่อไปจะไปอาศัยห้องพักแพทย์นอนสักอาทิตย์
แต่เจ็บที่สุดคงจะหนีไม่พ้นประโยคที่ว่า ใครจะไปจูบกับคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน อืม มันก็จริง
บ๊วยนั่งคิดอะไรได้สักพักกำลังจะล้มตัวลงนอน
แต่อยู่ดีๆดราฟต์ก็นั่งลงมาข้างๆเขาก่อนซะงั้น
แต่บ๊วยก็เลือกที่จะไม่หันไปมองหน้าและทำเหมือนร่างสูงเป็นอากาศ
“โกรธหรอ? ผมขอโทษ”
“ช่างเถอะ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยกันเลย” เพราะถ้าคุยกันตอนนี้เขาได้ระเบิดลงใส่ดราฟต์แน่ๆ
“กลับขึ้นห้องไปนอนเถอะ เค้าง่วงนอนจริงๆ”
อาจจะเพราะเมื่อเช้ายังไม่หายจากอาการแฮงค์เท่าไหร่
ไหนจะเลือดกำเดาที่ไหลออกมาเมื่อกี้อีก มันเลยทำให้ตอนนี้เขากำลังนอยด์หนักมาก
แต่ดราฟต์ก็ยังคงไม่สนใจ และเลือกที่จะนั่งมองหน้าบ๊วยอยู่แบบนั้น
แต่ก็เอาเถอะ ถ้าไม่ไปเขาไปเองได้
คิดได้แบบนั้นร่างเล็กรีบหยิบกุญแจรถกับโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงหน้า
และลุกขึ้นยืนทันที
แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากตรงนี้
อยู่ดีๆดราฟต์จับแขนของเขาอย่างแรงทำให้ตอนนี้ตัวของเขานั่งอยู่บนตักของดราฟต์
บอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าอารมณ์ปกติกูคงฟินอยู่หรอก แต่นี่ไม่!! กูนอยด์มึงอยู่!!
“ขอโทษ”
ดราฟต์พูดขอโทษออกมาพร้อมกับกอดร่างเล็กที่นั่งอยู่บนตักไว้หลวมๆ
“ไม่โกรธก็ได้ แต่ปล่อยได้ไหม?”
“ไม่ครับ”
“อือ....อื้อ...”
ดราฟต์จับใบหน้าของร่างเล็กไว้แล้วแนบริมฝีปากของตัวเองลงไปทันที
เลยทำให้ร่างเล็กที่อยู่บนตักไม่ทันได้เตรียมตัวหรือเตรียมใจเลยสักนิด
หลังจากที่บ๊วยตั้งสติได้ ร่างเล็กค่อยๆหลับตาลงตอบรับจูบนั้นพร้อมกับมือที่บีบไหล่ของร่างสูงเอาไว้แน่น ร่างสูงค่อยๆขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มของร่างเล็กอย่างนึกหมั่นเขี้ยวในความนุ่มนิ่มที่ไม่ต่างจากขนมเยลลี่ที่เขาชอบกิน
และเพียงครั้งแรกก็เหมือนจะทำให้เขาติดใจมันซะแล้ว
ให้เขามั่นใจกว่านี้อีกนิด
อีกไม่นานสถานะที่คนบนตักเขาคอยถามอยู่ทุกวัน
เขาจะให้สถานะนั้นด้วยตัวของเขาเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น