รักรสบ๊วย ep.8



ปล.แนะนำให้อ่านเนื้อเรื่องในจอยลดาก่อนนะคะ







ในชีวิตนี้ยังไม่เคยเดทกับเขาเลยสักครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งแรก




ผมไม่รู้ว่าคนอื่นเตรียมตัวในการเดทครั้งแรกยังไง ทักไปถามดราฟต์มันก็แค่บอกว่าทำตัวปกติเหมือนที่ทำทุกวัน แต่ของผมมันต่างกันออกไปไง




วันนี้ผมได้ออกเดทกับคนที่แอบชอบมาตั้งแต่มอปลาย มันจะกี่ปีแล้วล่ะถ้านับตั้งแต่มอสี่ จนตอนนี้อายุยี่สิบหกจะย่างเข้ายี่สิบเจ็ดกันแล้วผมเพิ่งจะเคยมีเดทครั้งแรก




ผมตื่นเต้น ใช่ผมเป็นแบบนั้น อะไรที่เกี่ยวกับซีนผมมักจะตื่นเต้นตลอด จนเพื่อนผมหรือแม้กระทั่งซีนก็มักจะชอบมองว่าผมเป็นตัวตลกอยู่บ่อยๆ เพราะชอบทำอะไรเด๋อๆ แต่เพราะผมอยากให้มันออกมาดี แค่อยากให้เขาประทับใจในตัวผมก็เท่านั้นเอง




ผมใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับการเข้าร้านทำผม ทำสปาหน้าหรือแทบจะทำทั้งตัวเลยก็ว่าได้




และตอนนี้ผมมาก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง ผมแค่กลัวรถติด กลัวมาไม่ทัน อย่างน้อยมาก่อนเวลาจะดีกว่าเพราะผมไม่อยากให้ซีนรอ เดทครั้งแรกย่อมสำคัญนะ ว่าไหม?




ผมนั่งรอซีนอยู่ในภายร้านกาแฟภายในห้าง พอใกล้ๆเวลาผมก็ส่งข้อความไปบอกเขาว่าผมรออยู่ตรงไหน




“โทษที มึงมานานแล้วหรอ?



“ไม่ค่ะ เราก็เพิ่งมา” เพิ่งมาบ้าอะไรล่ะ



“โอเค จะดูเรื่องอะไรคิดไว้ยัง?




ซีนนั่งลงตรงเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับผม ซีนยังเหมือนเดินตั้งแต่ครั้งที่เห็น เพียงแต่น่ารักมากขึ้นก็เท่านั้น




“แล้วแต่น้องซีนเลยค่ะ พี่มาร์คยังไงก็ได้”



“ไปกินข้าวก่อนไหม มึงกินข้าวมายัง?



“ยังๆ น้องซีนอยากกินอะไร?



“ไปดูโปรแกรมหนังก่อนละกันแล้วค่อยว่ากัน”



“ค่ะ ไปกัน”






//







เราสองคนได้แต่เดินไปข้างๆกัน โดยที่ไม่มีใครพูดคุยอะไรออกมา ผมไม่เหมือนในแชทที่มักจะพูดมาก ผมมันก็แค่นักเลงคีย์บอร์ดที่ต่อหน้าไม่กล้าพูดหรือชวนคุยอะไรมาก





“ร้านนี้ละกัน อยากกินข้าวหน้าเนื้อพอดี”



“ค่ะ แล้วแต่น้องซีนเลย”



“ไม่ต้องตามใจกูทุกเรื่องก็ได้นะ”



“ก็อยากตามใจ”



“ระวังกูจะเอาแต่ใจ”



“ไม่เป็นไร ตามใจได้ตลอดแหละ”




ผมเห็นว่าซีนแอบยิ้ม แบบนี้มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีหรือเปล่า เราสองคนไปดูโปรแกรมหนังกันมาแล้ว ซึ่งเรื่องที่ซีนเลือกดู มันก็จะ20+หน่อยๆ ซึ่งอายุของพวกเรามันเกินกันทั้งคู่




ถ้าซีนโอเค ผมก็ว่าโอเค




“เรื่องนี้มึงเคยดูภาคแรกยัง?



“เคยแล้วค่ะ แต่ทำถึงเลือกเรื่องนี้อ่ะ”



“ก็ไม่รู้จะดูเรื่องอะไร ปกติไม่ค่อยได้มาดูหนังในโรงหนังหรอก”



“ทำไมล่ะคะ?”



“เป็นหมอไม่ค่อยมีเวลาขนาดนั้นหรอกนะ”



“เดี๋ยวพี่มาร์คเป็นเวลาให้น้องซีนก็ได้นะ”



“ตลกเถอะ ข้าวมาพอดี กินดีกว่า”




นี่ไม่ใช่ครั้งที่ผมกับซีนมานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้ เอาจริงๆก็อยากจะทวงสัญญาเลี้ยงเนื้อย่างที่เขาติดผมไว้ถึงสองครั้ง แต่เพราะตอนนี้ซีนเป็นคนชวนผมมาดูหนัง จะพับเก็บเอาเรื่องเนื้อย่างไว้เป็นข้ออ้างวันอื่นก็ละกันนะ




“มึงไม่กินผักหรอ?



“ก็ไม่ค่อยชอบ”



“งั้นกูขอนะ”



“ไม่บังคับให้กินหรอ?



“โตแล้ว กูไม่มานั่งบังคับหรอก คิดเองเถอะ”




ก็นั่นน่ะสิ ซีนมักจะพูดแบบนี้ออกมาประจำ และนั่นทำให้ผมที่พอได้ฟังประโยคแบบนั้นปุ๊ป ผมก็รีบแย่งสลัดผักถ้วยนั้นแล้วตักกินทันที




“ไหนบอกไม่ชอบกิน?



“ก็...โตแล้ว ก็ควรกินผักอ่ะเนอะ”



“กินเข้าไปเยอะๆผักอ่ะ เอาของกูไปด้วยดิ”




ซีนพูดเสร็จก็ยื่นถ้วยที่มีสลัดผักอยู่ในนั้นมาให้ผม ถึงมันจะถ้วยน้อยนิดก็ตาม แต่พวกไม่ชอบผักแบบผมยังไงก็ไม่ชอบกินมันอยู่ดี




“นี่ไม่เคยแบ่งของกินให้ใครเลยนะ มึงคนแรก”




และตอนนั้นผมก็รับเอาสลัดผักถ้วยนั้นมาอย่างรวดเร็ว






//







ตอนนี้เราสองคนเข้ามาอยู่ภายในโรงหนังเรียบร้อยแล้ว ซีนเลือกที่นั่งแบบธรรมดา ไม่ได้เอาแบบโซนคู่รักเหมือนคู่อื่นๆ ก็แน่สิ พวกเราสองคนไม่ใช่คู่รักกันหนิ




ถ้าผมจะขอซีนจับมือตอนดูหนังได้ไหมนะ? เขาจะยอมให้ผมจับไหม?




“น้องซีน ขอจับมือหน่อยได้ไหม?




“ทำไมต้องจับอ่ะ”



“ไม่ให้จับก็ไม่เป็นไรค่ะ”



“จริงๆกูไม่ชอบดูหนังแล้วต้องมานั่งจับมือกับใครนะ แต่เห็นแก่ที่มึงไปทำสปามือมา กูโอเคก็ได้”




“รู้ได้ไงอ่า...?




“เพื่อนมึงไง จะจับไหมมืออ่ะ”




“จับค่ะ”




ซีนเป็นฝ่ายยื่นมาให้ผมก่อนด้วยซ้ำ คอยดูนะ ถ้าผมกลับบ้านไปเมื่อไหร่ผมจะทักไปด่าพวกมันทุกคนเลย เรื่องแบบนี้ไม่ควรบอกซีนป่ะวะ โคตรอาย




หนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆและมือของเราสองคนก็ยังคงจับกันอยู่ พอมันมาถึงฉากอย่างว่าผมได้แต่เม้มปากแน่น ถ้ามาคนเดียวหรือกับเพื่อนอาจจะไม่เป็นอะไร ไม่ใช่ว่ามันมีอารมณ์อะไรขนาดนั้น ตอนนี้ก็แค่เขินไม่รู้จะทำหน้ายังไงและผมก็ผู้ชายคนหนึ่ง วันไนท์ผมก็เคยมี เพียงแต่ไม่เคยเดท




ผมค่อยๆหันหาเจ้าของมือนิ่มที่ผมกำลังจับมันเอาไว้ และก็พบว่า ซีนได้หลับ....ไปแล้ว




ซีนหลับครับ ซีนกำลังนอนหลับ ผมไม่รู้ว่าเขาหลับไปนานแค่ไหนแล้วเพราะพอหนังเริ่มฉายเราก็ต่างคนต่างดู เผลอๆเขาอาจจะหลับตั้งแต่ต้นเรื่อง




ก็แน่ละเนอะ หมอไม่ค่อยมีเวลา




เอาล่ะ เดทครั้งที่หนึ่ง ก็ไม่ได้แย่นะครับ






ความคิดเห็น