รักรสบ๊วย ep.14




ปล.แนะนำให้อ่านเนื้อเรื่องตอนที่14ในจอยลดาก่อนนะคะ








21:30




บ๊วยได้แต่นั่งมองนาฬิกาแล้วถอนหายใจออกมา เขากลับมาถึงบ้านตั้งแต่สองทุ่ม และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งรอดราฟต์กลับบ้านอยู่



ล่าสุดที่คุยกันก็ตอนที่ดราฟต์ขอเขาเป็นแฟน เขาได้แต่นั่งอ่านข้อความเหล่านี้วนไปซ้ำหลายรอบ มันดูกะทันหัน ไร้พิธีรีตองและติดจะเหมือนคุยเล่นกันซะมากกว่าการขอเป็นแฟน



แต่ที่เขาตอบตกลงไปมันเป็นความจริง ความจริงที่ว่าเขาต้องการเป็นแฟนกับดราฟต์จริงๆ



มันจะผิดไหมถ้าเขากลัวจะเหมือนวันนั้น เขากลัวดราฟต์กลับมาถึงบ้านแล้วบอกว่าพูดเล่นไม่ได้จริงจังอะไร เขาแค่ไม่อยากรู้สึกเหมือนวันนั้นอีก



ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาขอดราฟต์เป็นแฟน คอยเต๊าะ คอยหยอด แต่ร่างสูงก็กลับดูนิ่งในบางทีและไม่ตอบสนองกันสักเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ



เรื่องของวันนี้เขาจะเชื่อได้มากแค่ไหนกัน



บ๊วยนั่งชันเข่าขึ้นมาและกอดมันเอาไว้ ตอนนี้เขากลัวมากกว่าที่สุดคือการพูดเล่น บ๊วยกำลังตกเข้าไปในภวังค์ของตัวเองอีกครั้งโดยที่ไม่ทันได้สังเกตหรือได้ยินเสียงจอดรถ หรือแม้กระทั่งดราฟต์เปิดประตูเข้ามาในบ้าน ร่างเล็กก็เหมือนกับจะไม่รู้เรื่องการมาเยือนของร่างสูง



ดราฟต์ค่อยๆเดินเข้าไปกอดร่างเล็กจากด้านหลังที่กำลังนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนโซฟาราวกับว่ากำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่




“ดราฟต์!!”



เขาจำน้ำหอมกลิ่นนี้ได้



“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้”



ร่างสูงปล่อยอ้อมกอดนั้นและเดินอ้อมมานั่งลงข้างๆร่างเล็ก



“มารอเธอแหละ”



“แล้วทำไมไม่โทรตาม”



“ก็เผื่อว่าอยากอยู่กับเพื่อนก่อนไง”


“กับแฟนก็อยากอยู่ครับ”




ร้อน!! ตอนนี้เขารู้สึกว่าใบหน้าของเขามันร้อนแปลกๆ บ๊วยรีบยกมือขึ้นมาพัดใบหน้าของตัวเองให้คลายร้อนโดยเร็ว พอพัดเสร็จก็เอามือขึ้นมาจับที่แก้มทั้งสองข้างของตัวเอง



ดราฟต์ได้แต่มองการกระทำเหล่านั้นและยิ้มออกมา เขายกแขนข้างหนึ่งพาดกับพนักพิงโซฟาเอาไว้และยกมือขึ้นมาเท้าคางมองการกระทำที่น่ารักของคนตรงหน้า




“เธอ....คือจริงจังมั้ย?



“ครับ จริงจัง”



บ๊วยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดแก้มของตัวเองอีกครั้งหลังจากที่ฟังคำตอบ



“คือ....ง่ายๆอย่างงี้เลยใช่ป่ะ?



“หรืออยากให้ขอต่อหน้าอีกรอบ?



“ฮื่ออออ..”



“ว่าไงครับ อยากให้ขอมั้ย?



“ฮือออ”




จากที่ตอนแรกแค่ปิดแก้ม ตอนนี้เขาปิดทั้งหน้าแล้ว เขาแพ้สายตาตอนที่ดราฟต์พูดมันออกมาเมื่อกี้นี้ ฮือออ ทำไมต้องอบอุ่นด้วย เขาอยากจะหายไปจากตรงนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอด ไหนจะใจเขาที่จะเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมาข้างนอกนี่อีกล่ะ



พระเจ้าช่วย!! ลูกกำลังจะเขินตายอยู่แล้วนะ




“ตอบฮือเนี่ย คืออยากให้ขอใหม่ใช่มั้ย?



“ฮือออ”




ดราฟต์ยิ้มให้กับการกระทำเหล่านั้นอีกครั้งและดึงมือทั้งสองข้างที่ปิดหน้าของร่างเล็กลง และทำการจับมือคู่นั้นเอาไว้


ทำให้ตอนนี้กลายเป็นว่าทั้งสองคนกำลังมองหน้ากันตรงๆ




“เป็นแฟนกับดราฟต์นะครับ?




หลังจากได้ฟังประโยคนั้นเขารู้สึกว่าตัวเองยิ้มกว้างที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เขากำลังมีความสุข น้ำใสนัยน์ตาเอ่อล้นออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ถ้าจะร้องไห้ก็ร้องเพราะมันมีความสุขเนี่ยแหละ



วันนี้ที่กูรอคอย...!!


ดราฟต์เห็นคนตรงหน้าน้ำตาไหลออกมาก็รีบยกมือขึ้นมาเช็ดให้อย่างช่วยไม่ได้



“อยากได้คำตอบครับ ไม่ได้อยากได้น้ำตา”



“ฮืออออ”



“เอ้า วันนี้จะรู้เรื่องกันไหมเนี่ย?....ว่าไงครับ เป็นแฟนกันดราฟต์นะครับ”



“ฮืออออ”



“ถ้าฮืออีกจะไม่ขอแล้วนะ”



“ฮือออ...เป็นสิเป็น”



“เป็นไร?



“ก็เป็นไง”



“แล้วเป็นอะไรล่ะครับ?




คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วย สายตาของคนตรงหน้าช่างอ่อนโยนและอบอุ่นราวกับไมโครเวฟ ลูกจะระเบิดตัวเองตายอยู่แล้ว ลูกว่าลูกไม่ไหว~




“ว่าไงครับ เป็นอะไรหืม?



“เป็นแฟนดราฟต์”



“ใครเป็นแฟนดราฟต์นะครับ?



“เธออ...อย่าแกล้งกันดิ”



“ไม่ได้แกล้งเลย ก็อยากได้ยินบ้าง”



“ก็บ๊วยเป็นแฟนดราฟต์ไง”




ตอบเสร็จก็ขยับกายเข้าไปหาดราฟต์และใช้สองแขนโอบกอดอีกฝ่ายเอาไว้



มันน่าเหลือเชื่อวันนี้เป็นวันของเขาจริงๆใช่ไหม มันเหมือนความฝันเลย เพราะความฝันของเขาคือการมีคนในอ้อมกอดนี้อยู่ข้างๆกัน



ดราฟต์ยกแขนทั้งสองข้างโอบกอดอีกฝ่ายเอาไว้บ้างแล้ววางคางไว้บนไหล่ของร่างเล็ก




“เป็นแฟนกันครั้งนี้ จะไม่ปล่อยมือให้ไปไหนแล้วนะครับ”



“อื้อ...จะไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆเหมือนกัน”








//








เราสองคนใช้เวลาหลายชั่วโมงในการนั่งคุยเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะอยู่ด้วยกันมาร่วมหลายเดือน แต่นี่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่นั่งเปิดใจคุยกัน



และเขาก็เพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าดราฟต์ใจอ่อนให้เขาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เขาแกล้งเอาซอสมะเขือเทศมาทำเป็นเลือดแล้ว ซึ่งมันนานมากเลยทีเดียว




“ขอเป็นแฟนไม่จูบหรอ?



“ขอเป็นแฟนครับ ไม่ได้ขอแต่งงาน”



“โอ๊ย!...เจ็บนะ”




ดราฟต์ดีดเข้าที่หน้าผากของร่างเล็กอย่างไม่แรงนัก แต่พอบ๊วยร้องออกมาแบบนั้นร่างสูงก็จัดการแนบริมฝีปากลงไปบริเวณที่ขึ้นเป็นริ้วสีแดงจางๆจากการถูกดีด



ขนาดว่าเขาดีดไม่แรงมากนักยังขึ้นสีอ่อนๆได้ขนาดนี้ คนตรงหน้าเขาต้องผิวบางขนาดไหนกันนะ




“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย”



จะเขินมันก็เขินอยู่หรอก แต่ต้องโกรธสิ ห้ามเขิน แต่ก็หยุดยิ้มกับการกระทำของคนตรงหน้าไม้ได้อยู่ดี วันนี้เขายิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้วนะ


ดราฟต์กดยิ้มที่มุมปากก่อนทำการกดจูบเข้าที่ริมฝีปากของร่างเล็กจนเกิดเสียงน่ารักและรีบผละออก




จุ๊บ




“ฮืออออ เอาอีก”




เมื่อกี้เขาไม่ทันได้ตั้งตัว แต่รอบนี้แหละ หึๆ บ๊วยยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับดราฟต์มากขึ้น




จุ๊บ



“เอาอีกไหม?




บ๊วยรีบพยักหน้าตอบกลับร่างสูงไป



จุ๊บ



จุ๊บ



จุ๊บ



จุ๊บ 



“ฮือออ พอแล่ววว เขินตัวจะแตกแล้ว”



“ไม่เป็นไร ดราฟต์จับไว้แล้ว”


จุ๊บ




รอบนี้บ๊วยเป็นฝ่ายทำแทน จึงทำให้ร่างสูงไม่ทันได้ตั้งตัว แต่สุดท้ายก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น เพราะการกระทำเมื่อกี้มันน่ารักมากเลย




วันนี้ไม่ใช่แค่บ๊วยแล้วยิ้มกว้างอยู่คนเดียว เพราะวันนี้ดราฟต์เองก็ยิ้มกว้างไม่ต่างกันเลย











Talk : ค่ะ เหม็นความรักไปหมดเลยค่ะ
หากใครสงสัยว่าทำไมในจอยขอแบบง่ายๆจัง 
อ่านตอนนี้ก็ไม่สงสัยละโน๊ะ










ความคิดเห็น