รักรสบ๊วย ep.15





ปล.แนะนำให้อ่านเนื้อเรื่องตอนที่15ในจอยลดาก่อนนะคะ
*มีคำผิดจะมาแก้ให้ทีหลังนะคะ*






Host Club ดราฟต์ได้แต่นั่งท่องชื่อนี้ในใจก่อนกระดกเหล้าเข้าปากไปด้วย และสายตาของเขาตอนนี้ไม่ได้สนใจเด็กโฮสต์ที่นั่งข้างตัวเองแต่อย่างใด


ในเมื่อมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าโฮสต์ภายในร้านนี้ให้มองเป็นไหนๆ แต่คนที่เขามองอยู่นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่แฟนร่างเล็กของเขาก็อยู่ภายในคลับนี้ด้วย




โกหกกันว่าเข้าเวร แต่จริงๆแล้วหนีเที่ยว เท่านั้นยังไม่พอมีโฮสต์หน้าตาดีคนหนึ่งกำลังเอาใจแฟนของเขาอยู่ด้วย แบบนี้มันน่าทำโทษซะให้เข็ด เป็นแฟนกันได้ไม่ถึงสองวันก็กล้าหนีเที่ยวกันซะละ



แต่ดราฟต์เป็นคนใจเย็น เพราะฉะนั้นจะยอมปล่อยไปก่อน พร้อมกับนั่งมองดูการกระทำเหล่านั้น ถ้ามันไม่เกินไปเขาจะยังไม่เข้ายุ่งวุ่นวาย




“เป็นไง กูบอกแล้วว่าพวกหมอร้ายกันจะตาย” อ๋องพูดพร้อมกับมองหน้าดราฟต์ด้วยท่าทีหยอกล้ออวัยวะเบื้องล่าง




“แต่ก็ไม่คิดว่าจะร้ายกันขนาดนี้” เจมส์เสริม




เขาไม่ค่อยเข้าใจระบบของคลับที่นี่สักเท่าไหร่ เพราะเพิ่งเคยมาครั้งแรก อ๋องบอกว่าตรงนี้ยังไม่ใช่โซนวีไอพี จึงยังไม่เห็นตัวท็อปๆของคลับ



วันนี้เป็นวันศุกร์ อ๋องบอกว่าตรงโซนวีไอพีคนจะเต็มไว เพราะส่วนมากเขาจองล่วงหน้ากันเป็นอาทิตย์ ส่วนข้อตกลงระหว่างลูกค้ากับโฮสต์คือบริการตามที่ลูกค้าต้องการ ยกเว้นเซ็กส์ นอกจากจะตกลงกันหลังเลิกงานหรือว่าเงินถึงจริงๆ



ตอนนี้อ๋องกับเจมส์สนใจโฮสต์ที่นั่งอยู่ข้างตัวเองกันหมด ยกเว้นเขาและก็มาร์คที่ไม่ได้สนใจสักเท่า ยิ่งมาร์คยิ่งไม่สนใจ เพราะมันเอาแต่นั่งหน้าบึ้งตั้งแต่เห็นซีนภายในร้านแล้ว



งานนี้ได้มีงานน้ำตานองร้านแน่นอน ถ้าเพื่อนเขากลั้นไหวน่ะนะ




“น้องชื่ออะไรนะ?



ในที่สุดเขาก็ทนกับการนั่งดูแฟนตัวเองคุยเล่นกับโฮตส์ต่อไปไม่ไหวแล้ว




“บีมครับ”



“เอานี่ไปให้ผู้ชายโต๊ะนั้น และบอกว่าพี่ฝากมา”



“ครับ”




บีมรับตามคำสั่งอย่างว่าง่ายและเดินไปยังโต๊ะที่พวกบ๊วยนั่งกันอยู่ และยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้กับแฟนร่างเล็กของเขา



บ๊วยหันมามองตามที่น้องคนนั้นบอกและก็ทำหน้าตกใจ ดราฟต์ได้แต่ยกแก้วเหล้าขึ้นเหมือนเชิญชวนกึ่งท้าทาย



ชิพหาย!! เขาไม่สามารถจะสันหาคำไหนมาบัญญัติสถานการณ์ในตอนนี้ได้นอกจากคำนี้แล้ว




“พวกมึง นั่นพวกดราฟต์”



“ห๊ะ / ห๊ะ” แวนกับซีนร้องออกมาพร้อมกันและหันหน้าไปมองตามที่บ๊วยบอก



“ชิพหาย เหี้ยมาร์ค” ซีนร้องออกมาด้วยความตกใจ



“เอาไงมึง?” แวนหันไปถามความเห็นจากเพื่อนของเขาทั้งสองคน



“งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” ซีนบอก



“ตามนั้นแหละ กูไปก่อนนะ ถ้าโชคเข้าข้างพวกมึงจะเจอกูได้ในวันพรุ่งนี้แบบครบ32ประการ”



บ๊วยหันไปบอกเพื่อนของตัวเองและเดินออกไป



“แล้วมึงอ่ะเอาไง” แวนหันไปถามซีนที่ตอนนี้เหลือกันอยู่สองคน



“มึงจะอยู่ต่อไหม”



“ก็คงต้องงั้นป่ะวะ เพิ่งมา”



“เค งั้นกูไปหามาร์คก่อนนะ หน้ามันจะร้องไห้อยู่ละ”



“เออ ไว้ไงทักหา”



“เค”






//







มาร์ค : ซีน





ซีนเดินไปจับมือมาร์คและพากันออกมาภายนอกคลับ ขนาดว่าเดิมมาทานข้างๆร้านคนยังเยอะเลย




“เอารถมาไหม?




ซีนหันไปถามมาร์คที่ยืนทำหน้าเหมือนไม่สบอารมณ์อยู่




“เอามาค่ะ”



“กูขับเองเอากุญแจมา”




มาร์คไม่ตอบอะไรกลับไปแต่ยอมยื่นกุญแจรถให้คนรักตัวเล็กอย่างว่าง่าย เพราะถ้าจะให้เขาขับตอนนี้คงจะไม่ปลอดภัยแน่ๆ



“เฮ้อออ คืนนี้ไปนอนบ้านกูละกัน”



“ค่ะ”




จะให้ปฏิเสธก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะเขาเองก็อยากที่คุยเรื่องคืนนี้ให้จบไปเร็วๆเหมือนกัน






//





“จะอาบน้ำก่อนไหม หรือว่าจะคุยก่อน”




ซีนหันไปถามมาร์คที่เดินตามเข้ามาภายในบ้าน




“คุยก่อนค่ะ”



“งั้นมานั่งนี่” ซีนตบลงบนเบาะโซฟาให้มาร์คเดินมานั่งลงข้างๆตน



“กูจะไม่พูดไรมากนะ นอกจากขอโทษ”



“...........”




หลังจากที่ซีนพูดจบก็หันไปมองหน้าคนรักตัวสูงที่นั่งหน้าแดง จมูกแดง น้ำตาคลออยู่ เชี่ยยย!!มันร้องไห้เลยหรอวะ




“มาร์ค ร้องไห้ทำไม”




ซีนยกมือขึ้นมาจับหน้ามาร์คและค่อยๆเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา



มาร์คไม่ได้อยากดูเป็นคนอ่อนแอต่อหน้าคนรักแบบซีน แต่เพราะว่าเขากลั้นไม่ให้น้ำตาไหลมาตั้งภายในคลับแล้ว เพราะถ้าร้องออกมาต่อหน้าพวกนั้นมันต้องล้อเขาแน่ๆเลย แบบนี้จะไม่คูล




“น้อยใจค่ะ”



“น้อยใจกะ.....น้อยใจซีนหรอ?



“อือ”



“ซีนขอโทษนะคะ”



“ทีหลังไม่เอาแล้วนะคะ ไม่โกหกมาร์คแบบนี้แล้วนะ”



“โอ๋ๆ ซีนไม่ทำแล้ว”



“ถ้าอยากไปบอกกันตรงๆก็ได้ค่ะ”



“ให้ไปหรอ?



“อือ”



“โฮสต์คลับอ่ะนะ”



“อือ”



“มึงจะใจกว้างเกินไปละ ไม่ไปหรอก ที่ไปนี่ก็เพราะแวนมันชวน”



“...........”



“แต่ต่อไปจะไม่ไปแล้ว ถ้าไปก็จะไปผับธรรมดาพอ”




ที่ไปก็เพราะแวนมันลองให้ไปเปิดหูเปิดตาดู ว่าทีที่แวนชอบไปเที่ยวเวลาที่พวกเขาไม่ว่างไปเที่ยวเป็นเพื่อนด้วยเนี่ยมันเป็นยังไง ซึ่งจากที่ได้ลองไปในวันนี้ดูแล้วมันก็อาจจะดีสำหรับใครหลายคน



แต่สำหรับเขาซึ่งมีแฟนอยู่แล้ว เขาไม่เห็นความจำเป็นต้องไปมันอีก




“จริงๆนะคะ จะไม่ไปคลับนั้นแล้วจริงๆนะ”



“เออ ไม่แล้ว”



“ดีใจ”



“ยิ้มออกมาได้สักทีนะ ทำไมเด็กน้อยงี้วะ”



“ก็เป็นทุกอย่างให้น้อยซีนไงคะ”



“ขี้แง”



“เรื่องของน้องซีนเป็นเรื่องอ่อนไหวค่ะ”



จุ๊บ




ซีนฉวยจังหวะที่มาร์คพูดจบและจุ๊บเบาๆลงไปบนปากนิ่มของแฟนตัวโต




“นะ....น้องซีน...จะ...จุ๊บ....อะ...อื้อ...”



จุ๊บ



“เออ กูจุ๊บมึงเองอ่ะ....เชี่ยมาร์ค มึงอย่าเพิ่งเป็นลม!!




นี่ถ้าจูบจริงๆมันไม่หัวใจวายไปโรงพยาบาลเลยหรือไงวะ






//






ดราฟต์ : บ๊วย





หลังจากที่บ๊วยบอกลาซีนกับแวนเสร็จก็เดินมาหาดราฟต์ที่โต๊ะอีกฝั่งหนึ่งของคลับ



ดราฟต์พาบ๊วยออกจากคลับและตรงกลับบ้านทันทีโดยที่แฟนตัวโตของเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคทักทายกัน



และตอนนี้เราสองคนก็นั่งมองหน้ากันอยู่เงียบๆภายในห้องนั่งเล่น




“เธอ โกรธเค้าหรอ?



“แล้วมันน่าโกรธไหมล่ะ โกหกกันทำไม?



“..........”



“ถามก็บอกครับ ไม่ใช่เงียบ”



“เธอเหมือนครูฝ่ายปกครองเลย”



“อย่าเปลี่ยนเรื่อง”




บ๊วยทำหน้าหงอยลงทันทีหลังจากที่แฟนตัวโตของเขาดุเข้า




“ก็ไปเปิดหูเปิดตา ไปเป็นเพื่อนแวน”



“แล้วทำไมไม่บอกกันตรงๆ”



“ขอโทษ”



“ไม่ต้องมาทำหน้าเป็นหมาหงอยเลย”




เห็นแฟนตัวเองหน้าหงอยแบบนี้ก็อดที่จะใจอ่อนไม่ได้ แต่ในเมื่อคนผิดก็ต้องโดนลงโทษ ทีหลังจะได้ไม่กล้าโกหกเขาอีก




“ทีหลังจะไม่ทำแล้ว คลับไรนั่นก็จะไม่ไปแล้วด้วย”




“.............”



“จริงๆ สาบานเลยจะไม่ไปแล้ว”




เพราะเขาไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องไปมันอีก ซึ่งซีนก็น่าจะคิดเหมือนกันเพราะมันมีมาร์คแล้ว สถานที่แบบนั้นคงไม่เหมาะกับพวกที่มีแฟนแล้วอย่างพวกเขาหรอก



และแน่นอนว่าถ้าเปลี่ยนเป็นดราฟต์หนีเที่ยวไปในที่แบบนั้นเขาก็คงจะไม่ชอบ มันอาจจะดีกับใครหลายๆคน แต่สำหรับเขาและดราฟต์ที่นั้นจะต้องเป็นสถานที่ต้องห้าม



จดในบัญชีหนังหมาดำไว้เลยว่าห้ามไปอีก!!!




“จะไปผับธรรมดาหรือร้านเหล้าก็ไปได้ แต่ที่นั้นไม่ต้องไปอีกนะ”



“ไม่ไปแล้วจ้าาาาา”



“ดีครับ จะเริ่มบทลงโทษเลยไหม”



“เริ่มเลยหรอ?




ร่างสูงไม่ตอบแต่ฉีกยิ้มกว้างตาหยีให้กับร่างเล็กแทน มันเป็นรอยยิ้มที่บ๊วยไม่ค่อยจะอยากเห็นสักเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนถ้าคู่รักคู่อื่นจะลงโทษคนรักของตัวเองเนี่ยคงหนีไม่พ้นเรื่องบนเตียง แต่สำหรับดราฟต์แล้วนั้น



บทลงโทษก็คือ




“เนียล!!




ดราฟต์ตะโกนเรียกชื่อสัตว์เลี้ยงขนปุกปุยที่มีสีขาวทั้งตัวและหน้าตาที่หน้าเหมือนกับพ่อของมัน ซึ่งก็คือดราฟต์



เขายังไม่เคยบอกใช่ไหมว่านอกจากดราฟต์จะเลี้ยงแมวแล้ว ดราฟต์ยังเลี้ยงสุนัขพันธุ์ซามอยด์ที่กำลังเดินมานั้นอีกหนึ่งตัว




“มานั่งนี่เนียล”




เนียลตัวขนปุกปุยสีขาวเดินมานั่งลงตรงหน้าเจ้าของอย่างว่าง่าย




“วันนี้เนียลจะมีเพื่อนนอนด้วยนะลูก”




ดราฟต์พูดกับเนียลและหันไปมองหน้าคนรักที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ข้างๆ



ทำไมรู้สึกเหมือนอีเนียลมันยิ้มวะ? หรือกูคิดไปเอง?




“พ่อจะขึ้นไปนอนแล้วนะ พาป๊าเขาไปดูที่นอนหนูนะลูก”



ป๊า? ใครป๊าวะ? กูหรอ?



“ไม่ เธอ เดี๋ยวก่อน”



“ทำไมครับ ตกลงกันไว้แล้วนี่ว่าบทลงโทษของคนดื้อคือนอนกับเนียลเป็นเวลาสองคืน



“เอาจริงดิ”



“ครับ”



“ฮือออ เริ่มพรุ่งนี้ไม่ได้หรอ?



“ไม่ครับ เริ่มคืนนี้ นอนโซฟาเนี่ยแหละแต่ต้องมีเนียลนอนอยู่ด้วย”




บทลงโทษอะไรวะเนี่ย แต่แค่นี้ยังไม่หมดนะ ยังมีอีก




“พน.จะไปทำงานก็ทักไลน์มาบอกทิ้งไว้ด้วย แล้วก็ห้ามจูบ ห้ามกอด ห้ามหอม ห้ามโดนตัวกันเป็นเวลาสามวัน




อีชิพหายยย!! กูจะไม่ทำอีก มันคงต้องมีหนึ่งวันในสามวันนั้นที่เขาจะต้องลงแดงตายแน่ๆที่ไม่ได้ใกล้แฟนตัวเองเนี่ย



มึงจำไว้นะอีดราฟต์!! ถ้าหนีเที่ยวอีกจะทำให้เนียนกว่านี้ แม่งงง แค้นนน อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะ!!!




“เข้าใจที่เค้าพูดเนอะ”



“เข้าใจ...ก็ได้!



“ดีมาก ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ”




กูเกลียดรอยยิ้มมึงตอนนี้ที่สุดเลยยยย!!!




จุ๊บ



“ฝันดีนะคะ”




บอกเลยว่าจุ๊บครั้งนี้ไม่มีความฟินแต่อย่างใด ดราฟต์เดินขึ้นไปบนชั้นสอง แล้วแบบนี้เขาจะเลือกอะไรได้บ้างหรอ ตอบกันหน่อยสิ



“เอาไงล่ะ จะนอนไหนอ่ะเรา”




บ๊วยหันไปพูดกับตัวขนปุกปุยที่นั่งทำหน้าตาน่ารักมองเขาอยู่




“เอ็งตัวใหญ่มาก และโซฟาก็เล็กนิดเดียว”



“............”



“นอนพื้นพรมไหม เดี๋ยวป๊าจะนอนข้างบนเอง”




สายตามึงนี่ก็มองแต่บนโซฟาเนอะ อีหมาหัวสูง!!



บ๊วยได้แต่ถอนหายใจออกมา จะนอนยังไงก็นอนนะ แล้วแต่ และก็ล้มตัวลงไปบนโซฟาโดยที่มีตัวขนปุกปุยสีขาวกระโดดขึ้นไปนอนข้างๆด้วย




อย่างน้อยคืนนี้ก็มีหมอนข้างเป็นอีตัวขนปุกปุยนี่แหละนะ









ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รักรสบ๊วย ep.10

รักรสบ๊วย ep.12